ความเคลื่อนไหวของสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ นายเดวิด ฮักเกอร์ตี้ ประธานสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ ชาวอเมริกัน ได้เดินทางมาเมืองไทย และ ร่วมในพิธีเปิดศูนย์ฝึกเทนนิส แอลทีเอที อะคาเดมี่ (LTAT Academy) ภาคกลาง ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี โดยมี นายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล นายกสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ประธานเปิดงาน ท่ามกลางผู้ฝึกสอนเทนนิส นักกีฬา สื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
นายกิตตน์สมบัติ กล่าวว่า การพัฒนานักเทนนิสในทุกระดับ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และเป็นกิจกรรมหลักของสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ด้วยเหตุนี้สมาคมจึงมีนโยบายที่จะจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาเทนนิสหรือเรียกง่ายๆ ว่า แอลทีเอที อะคาเดมี่ ขึ้นในทุกภาคของประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนานักเทนนิสในทุกระดับได้อย่างมีคุณภาพและทั่วถึงในทุกภูมิภาคของประเทศ และจะมีบทบาทในการพัฒนานักกีฬาและผู้ฝึกสอน รวมทั้งพัฒนาบุคลากรทุกๆ ด้านของกีฬาเทนนิส ทั้งทางด้านเทคนิค แท็คติก ความสมบูรณ์ของสภาพร่างกายและจิตใจ รวมทั้งจะมีการนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการและศาสตร์ต่างๆ มาใช้ เพื่อที่จะช่วยในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาเทนนิสในทุกระดับ โดยการบริหารที่ครบวงจร ภายใต้การควบคุมของผู้ฝึกสอนที่มีมาตรฐานสูงทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
“นอกจากนี้สมาคมยังมีเป้าหมายที่จะผลักดันนักกีฬาเทนนิสไทยให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในการแข่งขันรายการนานาชาติ อย่าง ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซียในปีหน้าที่จะต้องครองเจ้าเหรียญทองอีกครั้ง ต่อไปก็จะเป็น เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซียในอีก 2 ปีข้างหน้า และ ที่สำคัญคือ โอลิมปิกเกมส์ ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในอีก 4 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันผมก็หวังว่าหลังจากนี้เราจะมีนักเทนนิสที่มีศักยภาพมากขึ้นในทุกระดับอีกเป็นจำนวนมาก และมีนักเทนนิสที่ติดท็อป 100 ของโลก หรือดีกว่าให้มากที่สุด”
ขณะที่ นายเดวิด ฮักเกอร์ตี้ ประธานไอทีเอฟ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นกับการเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้และยิ่งทึ่งอย่างมากกับศูนย์ฝึกเทนนิสของไทย ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีความพร้อมทั้ง สนามเทนนิส ฟิตเนส นับเป็นศูนย์ฝึกที่ดีและทันสมัย ทำให้สมาคมกีฬาเทนนิสไทยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางเทนนิสของอาเซียน แม้ว่าการจะสร้างนักเทนนิสให้ประสบความสำเร็จต้องใช้เวลา ไม่ว่าเป็นศูนย์ฝึกที่ต่างประเทศกว่าจะได้นักเทนนิสที่เก่งๆ ก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน
“ไอทีเอฟเองก็มีนโยบายให้แต่ละประเทศมีศูนย์ฝึกเทนนิส เพื่อขยายโอกาสและบ่มเพาะนักเทนนิสเก่งๆ ก้าวสู่การเป็นนักเทนนิสอาชีพ ซึ่งที่เมืองไทยมีความพร้อมมาก และมั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีนักเทนนิสเก่งๆ ขึ้นมาได้เช่นในอดีตที่มี ภราดร ศรีชาพันธุ์ และ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ แน่นอน”
หลังจากนี้ นายเดวิด ฮักเกอร์ตี้ ประธานไอทีเอฟ จะเดินทางไปเยี่ยมสมาคมเทนนิสฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ต่อไป