ปัญหาความขัดแย้งจากการเลือกตั้งสมาคมกีฬาเทนนิสได้ข้อสรุปแล้ว หลังจากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบต่อหน้าศาล ให้จัดการประชุมวิสามัญที่มีวาระการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ และดำเนินการโดย สโมสรเครือสมาชิก 53 สโมสร ที่เข้าชื่อกันขอให้จัดการประชุม ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมด้วย ขณะที่ศาลได้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีอยู่ในระหว่างคู่ความดำเนินการระงับข้อพิพาท ซึ่งเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งแทนการพิพาทแห่งคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย และมีแนวโน้มที่จะสำเร็จจากการดำเนินการดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ไม่จำต้องพิจารณาคดีต่อไป พร้อมนัดรอฟังผลการจัดประชุมวิสามัญ ในวันที่ 7 ธ.ค.ต่อไป
ความคืบหน้าปัญหาจากการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2559 ซึ่งมีความขัดแย้งจนต้องพึ่งอำนาจศาล และต่อมา นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะนายทะเบียน ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้ นายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล เป็นนายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ คนใหม่ และเข้าบริหารงานเพื่อให้สมาคมเดินหน้าต่อไปได้ สืบเนื่องจากผลการเลือกตั้งที่ชนะคะแนนการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมชุดเก่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีดังกล่าวนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม สมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นร่วมกันที่จะยุติปัญหาความขัดแย้งและเป็นคดีอยู่ในศาลไว้ก่อน โดยการจัดการประชุมวิสามัญ ซึ่งเป็นการเข้าชื่อร้องขอให้จัดการประชุมวิสามัญโดยสโมสรสมาชิกของสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ที่เกินจำนวน 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดคือจำนวน 53 สโมสร จากสโมสรที่มีอยู่ทั้งหมด 61 สโมสร โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมใหม่และคณะกรรมการอำนวยสมาคมชุดใหม่ ในวันที่ 27 ตุลาคม 2559 เวลา10.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ สมาคมกีฬาเทนนิสฯ เมืองทองธานี เพื่อยุติปัญหาและช่วยกันทำงาน เป็นการพัฒนาวงการกีฬาเทนนิสเมืองไทยร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตกลงกันได้ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ณ ศาลจังหวัดนนทบุรี ผู้พิพากษาได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ พ ๒๖๐/๒๕๕๙ ระหว่าง ร.ต.ท.ดนัย อุดมโชค กับพวกรวม 2 คน ในฐานะผู้ร้อง และ นายทวีศักดิ์ ศีลกุล ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ผู้คัดค้าน โดยมี น.ส.กมลวรรณ สุทธิบุตร หัวหน้างานองค์กรกีฬา กกท. เข้าร่วมในการไต่สวนด้วย ในฐานะผู้แทนของผู้ว่าการ กกท. เนื่องจากผู้ว่าการ กกท. ติดราชการ
ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาและมีคำสั่ง โดยมีรายละเอียดตามรายงานกระบวนการพิจารณา ซึ่งระบุว่า ผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำร้องของดการพิจารณาคดี เนื่องจากอยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทแห่งคดี โดยการจัดประชุมวิสามัญเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ แทนการเลือกตั้งที่พิพาทในคดีนี้ ในวันที่ 27 ตุลาคม 2559 อยู่ในขั้นตอนรอผู้ว่าการ กกท. อนุมัติส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมตามข้อบังคับของสมาคมกีฬาเทนนิสฯ และพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558… และ น.ส.กมลวรรณ ยืนยันตามคำร้องผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ดังกล่าว พร้อมแสดงหลักฐาน การจัดเตรียมการประชุมวิสามัญที่ได้ยื่นต่อผู้ว่าการ กกท. …
ส่วนสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาคดีไว้เพื่อรอฟังคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ซึ่งทางสมาคมอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำคัดค้านคำร้องของผู้ร้องทั้งสองของสมาคม โดยแถลงว่าหากศาลอุทธรณ์ภาค1 มีคำสั่งอนุญาตให้สมาคมเข้าเป็นคู่ความผู้คัดค้าน (ที่3) อาจต้องดำเนินการสืบพยานผู้ร้องใหม่
สำเนาคำร้องของผู้คัดค้านทั้งสองและของสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ให้ผู้ร้องทั้งสองแล้ว ไม่คัดค้านการงดการพิจารณาของผู้คัดค้านทั้งสอง ประกอบกับพยานผู้ร้องทั้งสองมีธุระสำคัญ ไม่อาจเบิกความในวันนี้ส
ได้ทันและขอกลับไปก่อน แต่คัดค้านการเลื่อนคดีรอฟังผลคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ของสมาคมดังกล่าว
พิเคราะห์คำร้องของผู้คัดค้านทั้งสอง พร้อมคำแถลงและเอกสารของเจ้าหน้าที่ กกท. แล้ว เห็นว่า
คดีอยู่ในระหว่างคู่ความดำเนินการระงับข้อพิพาท ซึ่งเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งแทนการพิพาทแห่งคดี
ตามขั้นตอนของกฎหมาย และมีแนวโน้มที่จะสำเร็จจากการดำเนินการดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ไม่จำเป็นต้องพิจารณาคดีนี้ต่อไป ทั้งมีเหตุตามคำร้องของสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ที่อุทธรณ์คำสั่งศาล ซึ่งไม่อนุญาตให้สมาคมกีฬาเทนนิสฯ ดังกล่าวเป็นผู้คัดค้าน (ที่ 3) หากศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งอนุญาต อาจต้องดำเนินการสืบพยานผู้ร้องทั้งสองใหม่ ทั้งสองเหตุตามคำร้องของผู้คัดค้านทั้งสองและของสมาคมรวมกันแล้ว มีเหตุอันจำเป็นให้งดการสืบพยานผู้ร้องและผู้คัดค้านไว้ โดยยกเลิกวันนัดสืบพยานเดิม… ให้นัดพร้อมเพื่อรอฟังผลการจัดประชุมวิสามัญ ในวันที่ 7 ธันวาคม 2559 เวลา 09.30 น.