เล็กซี่ ธอมป์สัน แชมป์อเมริกันคนแรกของฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ พรอนงค์ จบอันดับที่ 12 ดีที่สุดนักกอล์ฟสาวไทย

CHONBURI, THAILAND — เล็กซี่ ธอมป์สัน โปรสาวชาวอเมริกันวัย 21 ปี มืออันดับ 4 ของโลก โชว์ผลงานยอดเยี่ยม 4อันเดอร์พาร์ 68 ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2016 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส จังหวัดชลบุรี เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 จบสกอร์รวมสี่วัน 20อันเดอร์พาร์ 268 คว้าแชมป์ไปครอง เอาชนะ ชอน อินจี โปรสาวจากเกาหลีใต้ 6 สโตรค พร้อมรับเงินรางวัล 240,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8.8 ล้านบาท) กลายเป็นนักกอล์ฟอเมริกันคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ และขึ้นแซงนำ สเตซี่ ลูอิส โปรรุ่นพี่ไปอยู่อันดับที่สามของคะแนนสะสมโลก ส่วน “แหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ โปรสาวจากชัยภูมิมาแรงทำ 5 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์281 จบลงที่ 12 เป็นอันดับที่ดีที่สุดของนักกอล์ฟไทย พร้อมรับเงินรางวัลไป 28,601 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1 ล้านบาท)

การแข่งขันกอล์ฟสตรี ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2016 ฉลองครบรอบ 10 ปี ชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 59 ล้านบาท พร้อมรางวัลพิเศษ รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ สำหรับนักกอล์ฟที่ทำโฮลอินวันที่หลุม 16 ซึ่งการแข่งขันมีขึ้นระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2559 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส

ในการแข่งขันวันสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 เล็กซี่ ธอมป์สัน ออกรอบกลุ่มสุดท้ายทางหลุม 1 ร่วมกับ ชอน อินจี อันดับสอง และ เอมี่ หยาง แชมป์ปีที่แล้ว โดย อินจี ทำสามเบอร์ดี้รวดขึ้นไปอยู่ที่ 15 อันเดอร์พาร์ ตามหลังเล็กซี่แค่สโตรคเดียว แต่ อินจี พลาดเสียโบกี้ที่หลุม4 หล่นไป 14 อันเดอร์พาร์ กลายเป็นตามหลังสองสโตรค

จากนั้น เล็กซี่ ทำเบอร์ดี้ที่หลุม 6 และ อินจี ก็ทำเบอร์ดี้เช่นกัน เล็กซี่ อยู่ที่ 17 อันเดอร์พาร์ และ อินจี อยู่ที่ 15 อันเดอร์พาร์ จากนั้น เล็กซี่ ทำเบอร์ดี้ในหลุม 8 หนีไปอยู่ที่ 18 อันเดอร์พาร์ แต่พลาดตีตกบังเกอร์หน้ากรีนซ้ายของหลุมที่ 9 ทำให้เสียโบกี้แรกในวันสุดท้าย คะแนนหล่นไปอยู่ที่17 อันเดอร์พาร์อีกครั้ง ก่อนที่ อินจี ทำเบอร์ดี้ที่หลุม 10 ไล่ขึ้นมาเป็น 16 อันเดอร์พาร์ แต่ในหลุมเดียวกัน เล็กซี่ ทำอีเกิ้ลหนีไปอีกที่ 19 อันเดอร์พาร์

ต่อมา อินจี พลาดเสียโบกี้ที่หลุม 11 และได้เบอร์ดี้ที่หลุม 13 แต่ก็พลาดเสียโบกี้ที่หลุม 14 อีกขณะที่ เล็กซี่ ไม่พลาดเลยจนนำห่างสามสโตรค จากนั้นทั้ง อินจี และ เล็กซี่ ทำเบอร์ดี้ที่หลุม 15 เล็กซี่หนีไปอยู่ที่ 20 อันเดอร์พาร์ อินจี อยู่ที่ 16 อันเดอร์พาร์ แต่เสียโบกี้ที่หลุม 16 พาร์ 3 และเสียดับเบิ้ลโบกี้อีกในหลุม 17 หล่นไป 13 อันเดอร์พาร์ กลายเป็นตามหลัง เล็กซี่ 7 สโตรคเมื่อเข้าหลุมสุดท้าย

หลุม 18 พาร์ 5 เล็กซี่ ขึ้นช็อตสองออกขวาไปติดใกล้มาร์คีของฮอนด้าห่างราว 2 ฟุต ไม่สามารถเล่นได้ แต่ด้วยเป็นอุปสรรคที่สร้างขึ้นเลยได้ฟรีดร็อป และอินจี ช็อตสองตกบังเกอร์หน้ากรีนขวาต้องแก้ขึ้นมาใกล้ระยะราว 5 ฟุตเพื่อพัตต์เบอร์ดี้ ส่วน เอมี่ หยาง ลูกตกหน้ากรีนซ้ายชิพเข้าเลยธงไปไกล ต้องทำถึงสองพัตต์ เก็บพาร์ได้ จบวันที่สี่ด้วยสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 13อันเดอร์พาร์ 275 คว้าที่สามร่วมกับ เจสสิก้า คอร์ด้า โปรชาวอเมริกัน

เล็กซี่ ชิพช็อตสี่เข้ามาเลยธงระยะห่าง 5 ฟุตเพื่อเซฟพาร์ และ อินจี พัตต์เบอร์ดี้ลงไป สกอร์จบลงที่ 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวมสี่วัน 14 อันเดอร์พาร์ 274 คว้าอันดับสองพร้อมกับเงินรางวัล149,262 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5.5 ล้านบาท) และเป็นอับดับดีที่สุดของเธอในฐานะสมาชิกแอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งก่อนหน้านี้รั้งที่ 3 ร่วมในรายการโคทส์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ที่ฟลอริด้า เมื่อสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ธอมป์สัน คว้าแชมป์ไปครองเป็นครั้งแรกในรายการนี้ รับเงินรางวัล 240,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8.8 ล้านบาท) พร้อมกับกลายเป็นนักกอล์ฟอเมริกันคนแรกที่คว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่แข่งขันกันมาครบ 10 ปี และเป็นนักกอล์ฟอเมริกันแรกที่คว้าแชมป์ในทัวร์ของฤดูกาลนี้ ก่อนหน้านี้ ธอมป์สัน เล่นสองรายการแรก รั้งอันดับ 17 ร่วมที่บาฮามาส และอันดับ 9 ร่วมที่ฟลอริด้า นอกจากนี้ยังเป็นแชมป์อาชีพรายการที่ 7 ในแอลพีจีเอ ทัวร์ หลังจากคว้าแชมป์นาวิสตาร์ แอลพีจีเอ คลาสสิค ปี 2011, ไซม์ ดาร์บี้ แอลพีจีเอ มาเลเซีย ปี 2013, ลอเรน่า โอชัว อินวิเทชั่นแนล ปี 2013,คราฟท์ นาบิสโก้ แชมเปี้ยนชิพ ปี 2014 (ปัจจุบันคือ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น) หนึ่งในรายการเมเจอร์, ไมเจอร์ แอลพีจีเอ คลาสสิค ปี 2015 และ แอลพีจีเอ เคอีบี ฮานาแบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ปี 2015

การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้ เล็กซี่ ธอมป์สัน มีเงินรางวัลรวมปี 2016 เพิ่มเป็น 286,712 เหรียญสหรัฐฯ ขึ้นไปอยู่อันดับที่สองต่อจาก จาง ฮานา โปรสาวชาวเกาหลี ซึ่งรั้งอันดับหนึ่งในขณะนี้ พร้อมกันนี้ ธอมป์สัน จะก้าวขึ้นรั้งอันดับ 3 ของโลก แซงหน้า สเตซี่ ลูอิส โปรรุ่นพี่ในการประกาศจัดอันดับคะแนนสะสมโลกอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ ที่ 29 กุมภาพันธ์ นี้

ธอมป์สัน กล่าวหลังการเล่นวันสุดท้ายว่า “วันนี้ออกด้วยคะแนนนำถึง 4 สโตรค แล้ว ชอน อินจี ก็ทำเบอร์ดี้ติดกันในสามหลุมแรก ไล่ขึ้นมาใกล้ เลยคิดว่าจะต้องทำเบอร์ดี้ให้ได้บ้าง ตั้งใจกับเกมของตัวเอง ไม่สนใจคนอื่น ทำพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 9 แต่กลับมาได้ที่หลุม 10 โดยทำอีเกิ้ล ถือเป็นจุดเปลี่ยนเลยทีเดียว ได้เป็นอเมริกันคนแรกที่เป็นแชมป์ของรายการนี้ ตอนนี้คุณได้กระโดดขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟอเมริกันที่มีอันดับสูงสุดของโลก แทนที่สเตซี่ ลิวอิส นี่มีความหมายกับฉันมาก ปีนี้เป็นปีที่มีการแข่งขันโอลิมปิก ฉันลงแข่งไม่เพียงแต่เพื่อตัวฉันเอง แต่เป็นเหมือนตัวแทนของประเทศด้วย ฉันพยายามที่จะอยู่กับการเล่นของตัวเองและพยายามทำให้ดีที่สุด และทำให้ความฝันของฉันกลายเป็นจริง”

เจสสิก้า คอร์ด้า โปรสาววัย 23 ปี มาแรงในวันสุดท้ายทำ 8 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียโบกี้เลย จบวันสุดท้ายที่สกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 64 สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 เป็นสกอร์ที่ดีที่สุดของการแข่งขันวันสุดท้าย

คอร์ด้า กล่าวหลังการเล่นวันสุดท้ายว่า “วันนี้พัตต์ได้ดี ทำให้ได้คะแนนดี ถึงแม้ว่าจะไม่มีโอกาสขึ้นนำได้เพราะคะแนนห่างกันมากถึง 11 ช็อต แต่ก็พยายามสู้เพื่อให้ติดท็อป 10 เพื่อที่จะสร้างกำลังใจในการเล่นในสัปดาห์หน้า รู้สึกดีใจกับเล็กซี่ด้วยที่ได้เป็นนักกอล์ฟอเมริกันคนแรกที่ได้เป็นแชมป์รายการนี้ สนามนี้เหมาะกับนักกอล์ฟที่ตีไกลและเล็กซี่ก็ทำได้ดีมาก ฉันรู้สึกว่านี่อาจจะเป็นสนามที่เหมาะกับเธอมาก”

ส่วนสาวไทย “แหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ เล่นวันสุดท้ายได้ “วาว” พรพงษ์ พี่ชายมาเป็นแคดดี้ เก็บพาร์ช่วง 7 หลุมแรก แล้วทำเบอร์ดี้ที่หลุม 8 จากนั้นหลุม 10 พาร์ 5 ขึ้นช็อตสองระยะ 240 หลา ลูกตกลงบนสโลปไหลเข้าใกล้ธงระยะราว 6 ฟุต พัตต์อีเกิ้ลลงไป และได้เบอร์ดี้ที่หลุม 11 ก่อนจะทำเบอร์ดี้อีกครั้งที่หลุม 15 และมีโอกาสเบอร์ดี้อีกในหลุมสุดท้ายแต่พลาดหลุด จบวันที่สี่สกอร์ 5อันเดอร์พาร์ 67 ไม่เสียโบกี้เลย สกอร์รวมสี่วัน 7 อันเดอร์พาร์ 281 รั้งอันดับ 12 ดีที่สุดตั้งแต่เล่นมา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยคว้าอันดับที่ 13 ร่วมเมื่อปี 2011 และยังเป็นอันดับที่ดีที่สุดของนักกอล์ฟไทยที่ลงแข่งขันรายการนี้รวมทั้งหมดทั้ง 7 คน รับเงินรางวัล 28,601 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1 ล้านบาท) และยังได้รับเงินรางวัลพิเศษจากแฟนกอล์ฟอีก 34,000 บาทจากการทำเบอร์ดี้

พรอนงค์ กล่าวหลังการเล่นวันสุดท้ายว่า “วันนี้ทำได้พอใจตามที่ตั้งเป้า และเล่นได้ตามแผนที่วางไว้ เตรียมพร้อม ทำให้ตัวเองมีความมั่นใจ ให้ดีกว่าเมื่อวานที่มีความกังวล ทำได้ถึง 5อันเดอร์พาร์ รวมทั้งได้อีเกิ้ลที่หลุม 10 ที่ช็อตสองวางได้ราว 240 หลาถึงธง แต่เป็นตีตามลม วางแผนว่าจะเข้ากลางกรีนให้ลูกวิ่งเข้าใกล้ธง แต่พอตีแล้วลูกไหลเข้าใกล้ธงเหลือระยะแค่ประมาณ 6 ฟุต ผลงานโดยรวมน่าพอใจมากค่ะ เสียดายที่ไม่ได้เบอร์ดี้ในหลุมสุดท้าย เพราะลังเลไปหน่อยและเป็นทางลงด้วย อาทิตย์หน้าต้องเดินทางไปแข่งขันต่อที่สิงคโปร์ ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่การเล่นในทัวร์ อยากจะคว้าแชมป์ให้ได้สักรายการ ส่วนโอลิมปิกก็จะทำให้ดีที่สุดเช่นกัน สภาพร่างกายตอนนี้ก็พร้อมมากขึ้นกว่าเดิม แหวนได้มาร่วมแข่งขันรายการนี้ทุกปี มีความประทับใจทุกครั้ง มีแฟน ๆ มาให้กำลังใจ ต้องขอขอบคุณช่อง 7 และฮอนด้า ที่ได้จัดการแข่งขันดี ๆ เช่นนี้ที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้สัมผัสกับนักกอล์ฟระดับโลกอย่างใกล้ชิด และทำให้นักกอล์ฟไทยได้มีโอกาสสร้างประสบการณ์”

ด้านนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ “น้องเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติของสมาคมกอล์ฟสตรีทำสกอร์วันสุดท้าย 70 สกอร์รวมสี่วัน 2 โอเวอร์พาร์ 290 รั้งอันดับ 42 ร่วม “น้องโม” โมรียา จุฑานุกาล ทำสกอร์วันสุดท้าย 76 และ “น้องเม” เอรียา จุฑานุกาล ทำสกอร์วันสุดท้าย73 สกอร์รวมสี่วัน 3 โอเวอร์พาร์ 291 รั้งอันดับ 48 ร่วมทั้งสองคน

“น้องนุ๊ก” บุษบากร สุขพันธ์ ทำสกอร์วันสุดท้าย 80 สกอร์รวมสี่วัน 9 โอเวอร์พาร์ 297 รั้งที่ 62ร่วม “สายป่าน” ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ ทำสกอร์วันสุดท้าย 75 สกอร์รวมสี่วัน 11 โอเวอร์พาร์ 299รั้งที่ 65 ร่วม และ “จูเนียร์” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ ทำสกอร์วันสุดท้าย 76 สกอร์รวมสี่วัน 14 โอเวอร์พาร์ 302 รั้งที่ 68 จากทั้งหมด 70 คนที่ร่วมลงแข่งขันในปีนี้

อันดับคะแนนหลังวันสุดท้าย

(-20) 268 เล็กซี่ ธอมป์สัน (สหรัฐฯ) 64-72-64-68
(-14) 274 ชอน อินจี (เกาหลีใต้) 69-69-66-70
(-13) 275 เจสซิก้า คอร์ด้า (สหรัฐฯ) 70-66-75-64, เอมี่ หยาง (เกาหลีใต้) 66-69-70-70
(-11) 277 ฮารุ โนมูระ (ญี่ปุ่น) 72-66-71-68, เชลล่า ชอย (เกาหลีใต้) 70-68-71-68, ปาร์ค ฮียอง(เกาหลีใต้) 72-69-66-70
(-10) 278 อี มินจี (ออสเตรเลีย) 69-71-70-68, จาง ฮานา (เกาหลีใต้) 69-69-70-70
(-9) 279 ซี ยู หลิน (จีน) 71-68-69-71

อันดับนักกอล์ฟไทย