“สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” สุดปลื้มคัมแบ๊กจัดศึกเทนนิส “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ” ประสบความสำเร็จเกินคาด ขณะที่ “ดับเบิลยูทีเอ-นักหวดสาวดาวดัง” ชื่นชมสนามแข่งขันมีมาตรฐาน และมีการต้อนรับที่อบอุ่น ชงยึดเป็นโมเดลจัดกีฬาระดับโลกช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมประกาศยันปีหน้าจัดยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน และดึงดูดมือท็อปโลกเข้าร่วมการชิงชัย
ภายหลังจากที่การแข่งขันเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ทัวร์นาเมนท์ รายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ” ชิงเงินรางวัลรวม 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8 ล้านบาท ที่เอสซีบี เซ็นเตอร์ คอร์ต ภายในทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผ่านพ้นไปเมื่อช่วงระหว่างวันที่ 28 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นปีแรกที่เทนนิสรายการใหญ่ระดับ ดับเบิลยูทีเอกลับมาจัดการแข่งขันในประเทศไทยอีกครั้ง
ในส่วนของแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวตกเป็นของ ดายาน่า ยาสเทรมสก้า ดาวรุ่งวัย 18 ปี จากยูเครน มือ 47 โลก และมือวาง 8 ของรายการ ที่หวดชนะ อัจล่า ทอมยาโนวิช จากออสเตรเลีย วัย 25 ปี มือ 49 โลก มือวาง 6 ของรายการ 2-1 เซต 6-2, 2-6 และ 7-6 ไทเบรก 7-3 ขณะที่แชมป์ประเภทหญิงคู่ อิริน่า-คาเมเลีย เบกู กับ โมนิก้า นิคูเลสคู คู่มือวาง 2 ของรายการจากโรมาเนียที่เอาชนะ แอนนา บลินโคว่า จากรัสเซีย กับ หวัง หย่าฟ่าน จากจีน 2-1 เซต 2-6, 6-1 และซูเปอร์ไทเบรก 12-10
ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาจัดการแข่งขันฯ เปิดเผยว่า ถือว่าการแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินคาดพอสมควร ไม่นึกเลยว่าผู้ชมจะแน่นเต็มสนามไปหมดเลยทั้งที่จัดการแข่งขึ้นเป็นปีแรก ถือว่าเป็นความสำเร็จมากๆ ซึ่งก็ต้องขอบคุณนักกีฬาทุกคนที่มาร่วมการแข่งขันกันอย่างเต็มที่ ขอบคุณผู้ให้การสนับสุน และขอบคุณทุกคนที่ช่วยทำให้“ไทยแลนด์ โอเพ่น คัมแบ๊ก” อย่างยิ่งใหญ่
ประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ กล่าวอีกว่า สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นเรื่องน่าดีใจก็คือ ตัวเองได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้แทนดับเบิลยูทีเอ และได้พูดคุยกับนักเทนนิส ซึ่งทุกคนกล่าวชมเชยการจัดการแข่งขันว่า สามารถจัดการแข่งขันออกมาได้ดีมาก และสนามแข่งขันมีมาตรฐาน รวมทั้งมีการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะเวลาที่นักเทนนิสได้ไปเที่ยวในเมืองเขาก็ได้เห็นความสวยงาม และก็ได้การต้อนรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดีมาก
“การแข่งขันรายการนี้ผมคิดว่าเป็นผลดีต่อประเทศ ทั้งในเรื่องภาพพจน์ด้านการกีฬา และเป็นผลดีต่อเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย ฉะนั้นผมคิดว่า การที่เรานำกีฬาระดับโลกมาจัดแข่งขันตามเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นกีฬาเทนนิส แต่เป็นกีฬาชนิดใดก็ได้ที่เป็นระดับโลก และไปจัดในเมืองท่องเที่ยวที่อยากจะโปรโมท ผมคิดว่า เป็นโมเดลที่จะช่วยทำให้ประสบความสำเร็จอย่างมาก อย่างเทนนิสรายการนี้ก็ได้มีการถ่ายทอดไปทั่วโลกเลย”
ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแข่งขันเทนนิสรายการนี้ในปีหน้าก็คงจะยิ่งใหญ่กว่าปีนี้อีกแน่นอน โดยทางดับเบิลยูทีเอได้บอกว่า ครั้งนี้เป็นปีแรกก็จัดได้ดีขนาดนี้ พอเราจัดปีแรกได้ดีก็จะช่วยให้นักเทนนิสหญิงระดับโลกสนใจมาเข้าร่วมการแข่งขัน และทางดับเบิลยูทีเอมั่นใจว่า ปีหน้าเกมการแข่งขันจะยิ่งใหญ่กว่านี้ และจะมีนักหวดสาวมือท็อปของโลกมาแข่งขันที่เมืองไทยมากกว่านี้อย่างแน่นอน ซึ่งปีนี้ได้รับคำชมเชยอย่างมากเลยทีเดียว โดยต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
“เราตั้งใจที่จะจัดกีฬาดีๆ เช่นนี้ เพื่อให้คนไทยได้มีความสุข และตั้งใจที่จะสร้างนักเทนนิสไทย สร้างเยาวชนตั้งแต่ในระดับรากหญ้า เพราะอยากที่จะได้เห็น ภราดร ศรีชาพันธุ์ และอยากเห็น แทมมารีน ธนสุกาญจน์ คนใหม่ของวงการเทนนิสไทยกลับมาอีกครั้ง” ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวปิดท้าย
