หลังจาก “เฟรม” ศุภิสรา เพียวสามพราน และ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล นักแบดฯหญิงคู่จากแคมป์ “เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี” มืออันดับ 322 ของโลก คว้าแชมป์การแข่งขันแบดมินตันระดับอินเตอร์เนชั่นแนลซีรีส์ รายการ “คาบาล อินเตอร์เนชั่นแนล คาร์วิน่า2018” ที่ ประเทศสาธารณรัฐเช็ก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ซึ่งเป็นการลงเล่นคู่กันเป็นรายการที่ 3 ของสองสาวดาวรุ่งนั้น
นายณปภัช ประไพตระกูล ผู้จัดการโครงการเอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นการทดลองสลับการเล่นคู่ของนักแบดมินตันในโครงการเพื่อหาคู่ที่ลงตัวและพร้อมที่สุด ซึ่งผลฯที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นปี นักกีฬาชุดนี้ก็ทำได้ตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะ“เฟรม-เอิร์ธ” ที่ทำได้ดีไม่ต่างจากเวลาอยู่ในสนามซ้อม จนทั้งคู่สามารถคว้าแชมป์แรกที่สาธารณรัฐเช็กได้สำเร็จ
“เราพยายามหารายการเล็กๆ เพื่อส่งนักกีฬาไปทดสอบในสนามแข่งขันจริง ซึ่งต้องใช้เวลา3-6 เดือนเพื่อจะประเมิน การสลับคู่ได้ผลเป็นยังไงบ้าง และอาจต้องใช้เวลาเป็นปีเพื่อทำอันดับโลกให้อยู่ในอันดับที่สามารถไปเล่นรายการใหญ่ๆ ได้”
ผู้จัดการโครงการ “เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี” กล่าวต่อว่า ในส่วนของ “เอิร์ธ” พุธิตา ที่เคยจับคู่กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ติดอันดับท็อป 10 ของโลกมาแล้วนั้น ให้ทดลองสลับมาคู่กับ “เฟรม” ศุภิสรา ออกตระเวนแข่งขันตามแผนที่ทีมผู้ฝึกสอนวางไว้ต่อเนื่อง ขณะที่ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บมา ก็จะเริ่มให้ลงเล่นคู่ผสมกับ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ เพียงประเภทเดียวก่อน เพราะไม่อยากให้หักโหมจนเกินไป เกรงว่า จะทำให้กลับมาเจ็บซ้ำอีก โดยอาจจะมีโอกาสจับคู่กับ พุธิตาลงเล่นให้ทีมชาติไทยในแบดมินตันทีมหญิงชิงแชมป์โลก “อูเบอร์คัพ” ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่20-27 พฤษภาคมนี้
“ตอนนี้สภาพร่างกายของปอป้อโอเคแล้ว ยังเหลือสร้างความมั่นใจในบางจังหวะเท่านั้นคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ”นายณปภัช กล่าว.