เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่โรงแรม อโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่ งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัว เร็กซี่ ไมนากี้ อดีตนักแบดมินตันประเภทชายคู่ ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 1996 ชาวอินโดนีเซีย ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวหน้ าผู้ฝึกสอนนักแบดมินตันทีมชาติ ไทยด้วยสัญญาแบบปีต่อปี เป็นเวลา 4 ปี และไม่เปิดเผยค่าเหนื่อยแต่อย่ างใด
คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า ระยะเวลาที่เร็กซี่ ไมนากี้ เข้ามาดูแลนักแบดมินตันไทยเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ปรับรูปแบบการฝึกซ้อมพอสมควร โดยได้วางแผนร่วมกับทีมผู้ฝึ กสอน ทั้ง กฤติน กฤตานุกูลย์, ปฏิพัทธ์ ฉลาดแฉลม, นิติพงษ์ แสงศิลา และ สราลีย์ ทุ่งทองคำ โดยจะควบคุมการฝึกซ้อมทั้ งประเภทเดี่ยว และคู่ รวมถึงการแข่งขันในนามทีมชาติ ไทยทั้ง ซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, สุธีรมานคัพ, โธมัส-อูเบอร์ คัพ ฯลฯ แต่คงต้องให้เวลาเร็กซี่ พอสมควรที่จะพัฒนานักแบดมินตั นไทยให้ถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ คือเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้จะให้เขาได้ไปให้ ความรู้กับโค้ชสโมสรสมาชิกทั่ วประเทศอีกด้วย
ด้าน เร็กซี่ ไมนากี้ กล่าวว่า ทันทีที่ได้รับการติดต่อจาก คุณหญิงปัทมา ให้มาทำหน้าที่นี้ ยอมรับว่ามีความท้าทายไม่น้อย แต่เนื่องจากคุ้นเคยกับนักแบดมิ นตันไทยหลายคนเป็นอย่างดี จึงเห็นศักยภาพนักกีฬาไทยว่ามี โอกาสทำผลงานก้าวขึ้นสู่ระดับท็ อป 5 หรือ 10 ของโลก ได้ ซึ่งเป้าหมายส่วนตัวคือหวังว่ านักแบดมินตันไทยต้องคว้าเหรี ยญทองเอเชี่ยนเกมส์, โอลิมปิกเกมส์ และออล อิงแลนด์ ให้ได้ แต่ถึงอย่างไรต้องขอเวลาทำงานร่ วมกับนักกีฬา และผู้ฝึกสอน ให้มีทัศนคติเป็นไปในทางเดียวกั น เพราะเป็นสิ่งสำคัญ และนับจากนี้จะทำงานอย่างหนัก โดยเน้นเรื่องของระเบียบวินัย และ ความฟิต พร้อมกับจัดแบบการฝึกซ้อมให้ เหมาะสมกับนักกีฬาแต่ละคน
“ผมเชื่อว่านักแบดมินตันไทยมีศั กยภาพไม่แพ้ จีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย หรือชาติอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกฝ่ายต้ องทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และสนับสนุนกันและกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องทำแบบค่ อยเป็นค่อยไป ซึ่งหลังจากศึก มาเลเซีย มาสเตอร์ส วันที่ 17-22 ม.ค.นี้ ที่มาเลเซีย นักแบดมินตัน ภายใต้การดูแลของ สมาคมฯ ก็จะกลับมารวมตัวฝึกซ้อมร่วมกัน และคงได้มีการฝึกซ้อม รวมถึงพูดคุยรายละเอียดต่างๆ เพิ่มขึ้นกว่านี้ต่อไป” เร็กซี่ ไมนากี้ กล่าว