BANGKOK, THAILAND — “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ เอ.พี. ฮอนด้า เดินทางกลับถึงเมืองไทยแล้ว หลังสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่ลงทำการแข่งขันศึกเอ็นดูรานซ์หฤโหดรายการ เซปัง 8 ชั่วโมง และสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์มาครองได้ จากการผนึกกำลังกับ ซัควาน ไซดี้ จากมาเลเซีย และแอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ จากอินโดนีเซีย พาทีม ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ ลุยศึกระดับโลก เจ้าตัวเผยฝนตกหนักเป็นอุปสรรคใหญ่ แต่ต้องยกความดีความชอบให้กับทีมงานที่วางแผนในการขี่มาเป็นอย่างดี พร้อมชื่นชม ซัควาน ไซดี้ ทีมเมทที่ใจสู้ แม้ว่าจะล้มในรอบคลอลิฟายจนมีอาการบาดเจ็บก็ตาม
ความเคลื่อนไหวของ “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ เอ. พี.ฮอนด้า ทำผลงานระดับมาสเตอร์พีซ แท็กทีม ซัควาน ไซดี้ เพื่อนร่วมทีมจากมาเลเซีย และ แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ จากอินโดนีเซีย ควบรถแข่ง ฮอนด้า CBR1000RR หมายเลข 88 พาต้นสังกัด ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ ผงาดคว้าตำแหน่งรองแชมป์ของศึกเอ็นดูรานซ์หฤโหดรายการ เซปัง 8 ชั่วโมง หรือ 8 Hours of Sepang พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักบิดไทยคนแรกที่ขึ้นโพเดี้ยมในศึกเอ็นดูรานซ์ชิงแชมป์โลก ที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา สมเกียรติ ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยมี สุคติ สรรพวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานกีฬายานยนต์ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด พร้อมด้วยสื่อมวลชนและแฟนคลับมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ร่วมให้การต้อนรับและแสดงความยินดีในความสำเร็จครั้งนี้ ที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
ก้อง-สมเกียรติ เปิดเผยหลังสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมว่า “รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่สามารถช่วยทีม ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ คว้ารองแชมป์ได้ในการแข่งขัน เซปัง 8 ชั่วโมง และผมยังกลายเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ลงทำการแข่งขันครั้งนี้และขึ้นโพเดี้ยมเป็นคนแรกอีกด้วย ส่วนตัวผมห่างหายโพเดี้ยมไปนาน หลังจากลงทำการแข่งขันระดับเวิล์ดกรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโต ทู ได้กลับมาขึ้นโพเดี้ยมอีกครั้งรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขเป็นอย่างมากมาก สำหรับการแข่งขันรายการนี้ถือว่าค่อนข้างยากเพราะต้องปรับตัวเยอะ ไม่ว่าจะเป็นรถที่แตกต่างไปจากรถแข่งโมโตทู ด้วยตัวถังที่ใหญ่กว่าปกติ เนื่องจากต้องเก็บกักน้ำมันเอาไว้ จนทำให้รถค่อนข้างหนักกว่าปกติ”
“แต่หลังจากได้ขับขี่ในรอบฝึกซ้อมและรอบคลอลิฟาย ทำให้ปรับตัวเข้ากับรถได้มากขึ้น นอกจากนั้นก็ต้องขอบคุณทีมงานที่วางแผนการแข่งขันให้กับผมและทีมเมท แม้ว่าจะมีอุปสรรคในการแข่งขัน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักก็ตาม แต่ก็ช่วยกันแก้ปัญหาจนสามารถคว้าโพเดี้ยมได้สำเร็จ นอกจากนั้นยังต้องชื่นชมในตัวของ ซัควาน ที่ใจ้สู้ เนื่องจากในรอบคลอลิฟายได้ประสบอุบัติรถล้ม แต่เจ้าตัวยืนยันว่าสู้ไหว ก่อนจะช่วยกันพาทีมประสบความสำเร็จได้ในที่สุด ซึ่งผมก็มั่นใจในตัวทีมเมทคนนี้ ผมต้องขอขอบคุณกำลังใจจากแฟนๆ ชาวไทยและชาวต่างชาติทุกคนมากๆ ครับ ที่ส่งกำลังใจมาเชียร์พวกผม ขอบคุณ เอ.พี. ฮอนด้า ที่ให้การสนับสนุนผมมาตลอด และขอบคุณ ฮอนด้า เอเชีย ดรีม ที่ให้ผมได้ร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ขอบคุณมากครับ” นักบิดดาวรุ่งวัย 21 ปี กล่าวปิดท้าย
สำหรับแฟนความเร็วสามารถติดตามข่าวสารของ “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม fb.com/aphondaracingth
