“ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักแบดมินตันทีมชาติไทยที่สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในหลายปีหลัง ทั้งประเภทหญิงคู่ที่จับคู่กับ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล และคู่ผสม ที่เล่นกับ “บาส”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ทั้งเหรียญรางวัลที่ได้มา และอันดับโลกที่ขยับขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กลายเป็นความหวังสำคัญของวงการตบขนไก่ไทย
อย่างไรก็ตามในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย เดือนสิงหาคม ปอป้อได้รับบาดเจ็บที่เข่าซ้ายจนไม่สามารถแข่งต่อได้ หลังจากนั้นเป็นช่วงเวลาที่เจ้าตัวเรียกว่าเป็น “บทเรียน”ครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะไม่เคยเจออาการบาดเจ็บหนักขนาดนี้มาก่อน
หลังจากได้รับบาดเจ็บ ปอป้อเข้ารับการรักษาภายใต้การดูแลของเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ จากวันแรกที่ได้รับบาดเจ็บ ประมาณ 2 เดือน นักตบขนไก่หน้าหวานมีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ
ปอป้อบอกว่า แพทย์วินิจฉัยอาการเจ็บจากผล MRI ว่าเอ็นไขว้หน้าขาด และได้แนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ โดยหลังการผ่าตัดจะเป็นระยะฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งตอนนี้ผ่านไป 1 เดือนถือว่าดีขึ้นมาก สามารถลงน้ำหนักแบบเต็มเท้าได้แล้ว จากช่วงแรกที่ยังไม่สามารถลงน้ำหนักได้เลย
“คงจะฝึกซ้อมตามปกติไม่ได้อีกยาว แต่ก็ไม่ได้หยุดการฝึกซ้อมเสียทีเดียว ช่วงนี้ต้องฝึกซ้อมในส่วนที่สามารถทำได้ เพื่อดูแลสภาพกล้ามเนื้อที่ไม่ได้รับบาดเจ็บให้คงสภาพไว้ และให้ความคุ้นชินต่างๆ ในการตีลูกยังดีอยู่ รวมทั้งต้องเตะขาเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เหมือนเป็นการรักษาสภาพร่างกายให้พร้อมที่สุดในวันที่หายดีแล้วจะได้ซ้อมได้เต็มที่ เจ็บครั้งนี้เหมือนเป็นบทเรียนว่าเราต้องดูแลร่างกายให้ดีกว่าเดิม”
ถามถึงระยะเวลาในการรักษาตัวครั้งนี้ ทรัพย์สิรีเล่าว่า แพทย์ประเมินไว้เบื้องต้นจะอยู่ที่ 6-8 เดือน เพราะอาการบาดเจ็บของนักกีฬา จะหายช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน อาการแบบเดียวกับตัวเองมีตัวอย่าง คือ “ตัง” สารัช อยู่เย็น นักเตะของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ทีแรกคาดว่าจะต้องพัก 8 เดือน แต่ก็กลับมาซ้อมได้หลังจากผ่านไป 6-7 เดือน
“ถามตัวปอป้อเองคิดว่าจะหายเมื่อไร ก็คิดไว้ว่าน่าจะ 6 เดือนคงกลับมาซ้อมได้ ถามว่ารีบมั้ยก็ยอมรับว่ารีบ เพราะอยากลงเล่น แต่ต้องดูสถานการณ์ ณ ตอนนั้น ถ้าไม่หายก็ไม่เร่ง ต้องรักษาให้หายดีที่สุดก่อน อาการเจ็บของป้อกับตังไม่เหมือนกัน เพราะของตังเกิดจากการปะทะด้วย ก็เลยคิดว่าน่าจะกลับมาได้เร็วกว่า 8 เดือน”
ในช่วงนี้ปอป้อยังรักษาตัวและฟื้นฟูร่างกายตามโปรแกรมที่โรงพยาบาลกรุงเทพเป็นหลัก อีกสักระยะจะเข้าโปรแกรมฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ของทีมงานวิทยาศาสตร์การกีฬานำโดย รศ.เจริญ กระบวนรัตน์ ของเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็ดูแลเรื่องการรับประทานอาหารให้ถูกต้องหลักโภชนาการตามคำแนะนำของ ดร.อรวรรณ ภู่ชัยวัฒนานนท์ ซึ่งช่วยให้น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้นและแผลผ่าตัดหายเร็วขึ้นด้วย ตอนนี้สามารถลงน้ำหนักได้เต็มเท้า เดินได้ปกติ แต่แค่ซ้อมไม่ได้เท่านั้น
“ตอนนี้ถือว่าได้พักผ่อน เพราะตั้งแต่เล่นแบดมินตันมาก็ยังไม่เคยได้พักเลย ส่วนเรื่องอันดับมือโลก คงจะลดลงไม่มาก เพราะรายการสำคัญมีไม่มากแล้ว มีเพียงซูเปอร์ซีรีส์ ไฟนอลส์ ที่ดูไบรายการเดียว ตอนนี้ทีมสต๊าฟโค้ชเตรียมโปรแกรมฝึกซ้อมให้พร้อมแล้ว รอให้อาการดีขึ้นกว่านี้อีกสักระยะก่อน”
สำหรับหน้าที่ของทรัพย์สิรีในตอนนี้ คือ ดูแลรักษาร่างกายและเตรียมความพร้อมร่างกายให้กับตัวเองหลังจากฟิตกลับมาเต็มที่แล้ว เพราะยังมีศึกใหญ่อย่างกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม – 2 กันยายน ปีหน้า ให้ไปลุ้นแชมป์อยู่
“เอเชี่ยนเกมส์ปีหน้า ป้อหายทันแน่นอน และเอิร์ธเองถึงแม้ไม่ได้เล่นหญิงคู่ก็ยังได้เล่นคู่ผสมอยู่ ทำให้ไม่ต้องร้างสนามไปนานมาก หลังจากหายแล้วก็จะกลับไปลุยกันเต็มที่เหมือนเดิม หวังว่าจะคว้าเหรียญเอเชี่ยนเกมส์ และมองไปถึงโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่นด้วย”
ขอให้ปอป้อหายไวๆ เพราะมีแฟนแบดมินตันคิดถึงนักตบขนไก่หน้าหวานคนนี้มากมายจริงๆ