“ยูเอส คอลเลจ สปอร์ต แคมป์ ไทยแลนด์” ยกทีมโค้ชเดินทางขอบคุณผู้สนับสนุน “ดอยคำ-โก๋แก่” เผยปลื้มโครงการช่วยเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้ฝึกทักษะกีฬา ควบคู่การเรียนรู้ พร้อมอ้อนภาครัฐช่วยหนุนเพิ่มโอกาสให้กับเด็กไทยได้พัฒนาศักยภาพมากยิ่งขึ้น
น.ส.วาสนา ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโครงการยูเอส คอลเลจ สปอร์ต แคมป์ ไทยแลนด์ พร้อมด้วย มร.ริชาร์ด เชิร์ช หัวหน้าโค้ชจากเซาธ์เทิร์น ยูนิเวอร์ซิตี้ และโค้ชในโครงการ เดินทางไปยังบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เพื่อขอบคุณที่ให้การสนับสนุนโครงการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ให้การต้อนรับ ที่ร้านดอยคำ ราชเทวี เมื่อวันที่ 29พฤศจิกายน
นายพิพัฒพงศ์ กล่าวว่า ดอยคำให้การสนับสนุนโครงการยูเอส คอลเลจ สปอร์ต แคมป์ ไทยแลนด์ มาแล้ว 3 ปี ซึ่งเป็นไปตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่อยากให้เด็กไทยได้เล่นกีฬา และเพื่อการดูแลสุขภาพตรงกับแนวทางของดอยคำที่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ โดยโครงการนี้ถือเป็นการพัฒนาเด็กไทยในการเล่นกีฬาก้าวไปสู่ระดับสากล ด้วยการไปร่วมฝึกทักษะกับโค้ชมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกา
“ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เราพอใจในผลงานของโครงการนี้ที่ทำให้เด็กไทยได้พัฒนาทักษะกีฬา ซึ่งนอกจากทักษะแล้วยังช่วยเป็นการฝึกวินัยในการฝึกซ้อม การควบคุมสติอารมณ์ และการเป็นนักกีฬาที่ดี รู้ว่าชนะเพราะอะไร แพ้เพราะอะไร รวมทั้งมีประสบการณ์เพื่อต่อยอดไปสู่อนาคตต่อไป ซึ่งเราก็อยากจะฝากให้เด็กไทยช่วยกันสืบสานวัฒนธรรมไทยกันด้วย ในส่วนดอยคำก็พร้อมที่จะสนับสนุนโครงการนี้ต่อเนื่องไปเป็นปีที่ 4 อีกด้วย” นายพิพัฒพงศ์ กล่าว
จากนั้นช่วงบ่าย น.ส.วาสนา ชัยพรหมประสิทธิ์ นำคณะโค้ชเดินทางไปขอบคุณ บริษัท โรงงานแม่รวย ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงกรอบ ภายใต้แบรนด์ โก๋แก่ โดยมี นายจุมภฏ รวยเจริญทรัพย์ กรรมการผู้
จัดการ บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด ให้การต้อนรับ พร้อมนำชมโรงงานและขั้นตอนกระบวนการในการผลิต ที่ย่านพระราม 2
นายจุมภฏ กล่าวว่า โก๋แก่เข้ามาสนับสนุนโครงการยูเอส คอลเลจ สปอร์ต แคมป์ ไทยแลนด์ เป็นปีแรก ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดีที่ช่วยเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้เริ่มต้นฝึกทักษะกีฬาตั้งแต่วัยเด็ก ควบคู่กับการศึกษาด้วย โดยเชื่อว่าการเรียนรู้จะเป็นสิ่งสำคัญให้กับเด็กในการก้าวไปให้สุดทาง ทั้งนี้ โก๋แก่พร้อมที่จะสนับสนุนต่อเนื่องไป แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าอยากให้โครงการขยายวงกว้างไปอีก และอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมนอกเหนือจากภาคเอกชน เพื่อเปิดโอกาสสำหรับเยาวชนไทยมากยิ่งขึ้น
ด้าน มร.ริชาร์ด เชิร์ช กล่าวว่า โครงการยูเอส คอลเลจ สปอร์ต แคมป์ ไทยแลนด์ จัดมาต่อเนื่องกว่า 6 ปีแล้ว ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้ไปฝึกฝนประสบการณ์ที่มหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ โดยปีที่ผ่านมามีเด็กเข้าร่วมกว่า 50 คน และในส่วนของเด็กไทยก็ถือว่าทำผลงานได้ดีติดอันดับต้นๆ อีกด้วย
สำหรับโครงการยูเอส คอลเลจ สปอร์ต แคมป์ ไทยแลนด์ จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยเปิดรับสมัครเยาวชนไทยเข้าร่วมฝึกทักษะใน 7 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กอล์ฟ, ฟุตบอล, ว่ายน้ำ, วอลเลย์บอล, บาสเกตบอล, เทนนิส และแบดมินตัน