แอลพีจีเอต้นแบบความสำเร็จของสวิงสาวไทย

กอล์ฟอาชีพสตรีในประเทศไทยพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งในสาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลสำคัญต่อการพัฒนาดังกล่าวก็คือตัวแปรอย่างแอลพีจีเอทัวร์ สืบเนื่องจากแอลพีจีเอทัวร์เป็นต้นแบบให้เหล่านักกอล์ฟสาวไทยมุ่งมั่นเพื่อจะก้าวไปในสนามแข่งขันระดับโลก และนั่นก็ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในชาติที่มีนักกอล์ฟหญิงมากที่สุดที่เล่นในทัวร์ที่ดีที่สุดของโลก

กอล์ฟอาชีพในประเทศไทยมีมานานกว่าครึ่งศตวรรษ แต่นั่นคือกอล์ฟชายส่วนกอล์ฟหญิงเพิ่งเป็นรูปเป็นร่างได้ไม่นานโดยเฉพาะในทัวร์ใหญ่ดีสุดของโลกอย่างแอลพีจีเอทัวร์ เริ่มตั้งแต่

วิรดา (นิราพาธพงษ์พร) โกมุทบุตร และ รัศมี กัลยานมิตตา และมาบูมมากที่สุดเมื่อ “แหวน”พรอนงค์ เพชรล้ำ ได้มีโอกาสเข้าไปเล่นในทัวร์เป็นครั้งแรกในปี 2009 และเป็นสมาชิกทัวร์เล่นเต็มฤดูกาล 2010เป็นต้นมา

ความโดดเด่นของกอล์ฟอาชีพสตรีไทยผงาดโด่งดังไปทั่วโลกก็เมื่อพี่น้อง”โม”โมรียา “เม”

เอรียา จุฑานุกาล เข้าไปร่วมสร้างสีสันจนกระทั่งปี 2016 เอรียา สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอทัวร์คว้าแชมป์เมเจอร์ได้อีกด้วย และก้าวขึ้นสู่มือหนึ่งของโลกด้วยเมื่อปี2017

กอล์ฟอาชีพสตรีในประเทศไทยเริ่มพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดเจนมาตั้งแต่มีรายการแอลพีจีเอทัวร์เข้ามาจัดในประเทศไทย รายการฮอนด้า แอลพีจีเอไทยแลนด์ ที่อมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี เมื่อปี 2006 และถัดมาย้ายไปจัดที่สยามคันทรี่ คลับ ในจังหวัดเดียวกันถึงปัจจุบัน รายการนี้ได้กลายเป็นแรงดลบันดาลใจให้กับเด็กเยาวชนหญิงที่อยากจะก้าวเข้าไปเป็นนักกอล์ฟอาชีพเหมือนกับรุ่นพี่ๆหรือนักกีฬาขวัญใจของพวกเขา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ โมรียา และ เอรียา จุฑานุกาล ที่ครั้งหนึ่งเป็นเด็กที่ได้รับโอกาสเข้าไปเล่นในรายการแอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เป็นต้น ส่วนกอล์ฟอาชีพสตรีในประเทศเองก็พัฒนามากขึ้น มีทัวร์แข่งขัน และนักกอล์ฟสาวไทยออกไปสร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจ ในต่างประเทศ อย่างจีน ญี่ปุ่น และจีนไทเปหรือแม้แต่ในฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้

นับจากอดีตถึงปัจจุบันมีนักกอล์ฟสาวไทยเข้าไปเล่นในแอลพีจีเอทัวร์มาขึ้น และสองปีที่ผ่านมามีนักกอล์ฟสาวไทยเป็นสมาชิกกว่าสิบคน ซึ่งถือว่าเป็นชาติที่มีนักกอล์ฟมากที่ได้เล่นในทัวร์เป็นจำนวนมากรองจากเกาหลีใต้ ยกเว้นประเทศเจ้าของทัวร์อย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีสมาชิกมากที่สุด

ไมค์ วาน ประธานบริหารแอลพีจีเอทัวร์ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนากอล์ฟสตรีในประเทศตั้งแต่เขาเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2010 ว่า “คุณลองมองย้อนกลับไปในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมาจะเห็นผู้หญิงในประเทศไทยเล่นกอล์ฟน้อยและระดับอาชีพก็ยิ่งไม่ใช่ระดับสูงเลย ส่วนแฟนกอล์ฟที่ชมในการจัดแข่งขันในประเทศกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ผู้ชาย หากดูในปัจจุบัน เราจะพบว่ากอล์ฟสตรีในประเทศไทยมีการพัฒนาไปไกลมาก ไม่เพียงแต่เราได้เห็นผู้หญิงเล่นกอล์ฟมากขึ้น แต่ในจำนวน 220 คนของนักกอล์ฟคัดเลือกแอลพีจีเอทัวร์ปีที่แล้ว ผมคิดว่านักกอล์ฟจากประเทศไทยมีจำนวนมากเป็นอันดับสอง นอกจากนี้ หากจะเปรียบเทียบกับอดีต จากเดิมชายกับหญิงเล่นกอล์ฟ 60-40 แต่ปัจจุบันอาจพูดได้ว่าจำนวนผู้เล่นนั้นมีตัวเลขที่ใกล้เคียงกันมาก ผมเองจำได้ว่าเคยดูเอรียาเล่นเมื่อตอนเธออายุ 12 หรือ 13 ปี ที่เล่นช่วงแรกๆที่ประเทศไทย มีสื่อมวลชนสนใจทำข่าวแต่ไม่ค่อยมีแฟนๆตามดูเธอเล่น แต่มาดูปัจจุบัน แทบจะไม่มีที่ยืนดูที่แท่นทีออฟเลย และนี่คือสิ่งที่กอล์ฟสตรีไทยพัฒนาก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งมาก และคิดว่าจะมากกว่านี้อีกในอีก 10 ปีข้างหน้า”

ประธานบริหารแอลพีจีเอทัวร์ยังพูดถึงทัวร์ที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้กอล์ฟสตรีในภูมิภาคเอเชียโดยรวมและประเทศไทยนั้นก้าวไปข้างหน้าอีกระดับหนึ่งโดยวัดจากความสำเร็จทางด้านการตลาดและความนิยมของแฟนๆ กอล์ฟที่มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพิสูจน์ได้จากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทุกสัปดาห์

ปัจจุบันนี้นักกอล์ฟสาวไทยที่เล่นในแอลพีจีเอทัวร์มี เอรียา จุฑานุกาล โมรียา จุฑานุกาล

พรอนงค์ เพชรล้ำ ธิฎาภา สุวัณณะปุระ พัชรจุฑา คงกระพันธ์ เบญญาภา นิภัทร์โสภณ วิชาณี มีชัย และยังมีกลุ่มที่ไม่ได้เล่นแบบเต็มฤดูกาลอีกหลายคนรวมแล้วกว่าสิบคน และนี่คือผลพวงจากการพัฒนาของกอล์ฟสตรีไทยที่ได้แบบอย่างจากต้นแบบคือแอลพีจีเอทัวร์นั่นเอง

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lpga.com