ความเคลื่อนไหวการเตรียมนักเทนนิสทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 19-30 สิงหาคม 2560 ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นักเทนนิสทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ได้ทำการฝึกซ้อมร่วมกัน ณ สนามเทนนิสภายในศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี โดยมี ร้อยเอก วิทยา สำเร็จ หัวหน้าผู้ฝึกสอน, นายวีรภัทร ดอกไม้คลี่ และ นายอัคสิทธิ์ เทพกสิกุล สองผู้ฝึกสอน ดูแลการฝึกซ้อม
นักเทนนิสทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 29 มีทั้งหมด 10 คน มาฝึกซ้อมครั้งนี้ 8 คน ประกอบด้วย นักหวดชาย 3 คน ได้แก่ สนฉัตร รติวัฒน์, สรรค์ชัย รติวัฒน์, กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ และหญิง 5 คน ได้แก่ ลักษิกา คำขำ, เพียงธาร ผลิพืช,ณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย, นพวรรณ เลิศชีวกานต์, บุณยวีร์ ธรรมไชยวัฒน์ ส่วนอีก 2 นักหวดชายคือ วิชยา ตรงเจริญชัยกุล และ จิรัฏฐ์ นวสิริสมบูรณ์ ติดแข่งขันเทนนิสอาชีพที่ฮ่องกง
ร้อยตำรวจเอก วรพล ทองคำชู อดีตนักเทนนิสชายทีมชาติไทย ในฐานะผู้จัดการทีม เปิดเผยว่า ตอนนี้ทีมเทนนิสไทยมีความพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เนื่องจากนักกีฬาทุกคนมีโปรแกรมแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่ต้องเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันนานมาก ส่วนความหวังในซีเกมส์ครั้งนี้ สมาคมตั้งเป้าไว้ระดับกลางๆ คือ 3-4 เหรียญทอง
ด้าน ร้อยเอก วิทยา กล่าวว่า นักกีฬาชุดนี้คือชุดที่ดีที่สุดของประเทศไทยในเวลานี้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในชุดที่คว้า 6 เหรียญทองจากซีเกมส์ครั้งก่อนที่สิงคโปร์ และที่ผ่านมานักกีฬาทั้งหมดมีโปรแกรมแข่งขันอย่างต่อเนื่อง จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงในเรื่องประสบการณ์ สำหรับครั้งนี้เจ้าภาพตัดการแข่งขันประเภททีมออกไป ทำให้เหรียญรางวัลหายไปด้วย แต่ทีมไทยไม่ได้กังวลจะเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดและคว้าเหรียญรางวัลให้ได้มากที่สุด
“ในประเภทชายเดี่ยว ทีมได้วาง วิชยา ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างแข่งขันที่ฮ่องกง เป็นมือ 1 เชื่อว่าอย่างน้อย วิชยาจะสามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ส่วนหญิงเดี่ยวก็มี ลักษิกา เป็นความหวัง แต่ทั้งนี้ยังไม่อยากกดดันนักกีฬามากเกินไป แต่เชื่อในศักยภาพของทุกคนว่าจะพาทีมเทนนิสไทยประสบความสำเร็จ” ร้อยเอกวิทยา กล่าว
สนฉัตรและสรรค์ชัย กล่าวร่วมกันว่า เราจะประมาทไม่ได้เลยในการแข่งขันครั้งนี้ เนื่องจากมีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังมีเวียดนามที่ช่วงหลังพัฒนาขึ้นมาได้เด่นที่สุด คิดว่าซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันที่หนักกว่าที่สิงคโปร์ อย่างไรก็ตามยังมองเป้าหมายไปที่เหรียญทองเท่านั้น แม้จะกดดันแต่จะพยายามเล่นให้ดีที่สุด
ขณะที่ ลักษิกา กล่าวว่า แม้การแข่งขันครั้งนี้จะแย่ตรงที่ไม่มีประเภททีมให้ลุ้นเหรียญทอง แต่มองในแง่ดีคือจะทำให้นักหวดมีสภาพร่างกายที่พร้อมขึ้น เนื่องจากไม่ต้องลงแข่งขันหลายประเภทติดต่อกัน และทำให้มุ่งสมาธิในประเภทเดี่ยวอย่างเดียว สำหรับทีมชาติไทยชุดนี้เป็นชุดที่แข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นประเภทคู่หรือประเภทเดี่ยว เชื่อว่ามีลุ้นเหรียญทั้งหมด ส่วนตนเองนั้น ลึกๆ ก็หวังคว้าเหรียญทองให้ได้ แต่ยังไม่อยากกดดันตัวเอง
